ส่วนหนึ่งมาจากที่ประเทศไทยไม่มี กฎหมายตลาดหลักทรัพย์ จะเป็นเพียงกฎหมายพ่วงเข้ากับกฎหมายใหญ่คดีอาญา - คดีแพ่ง ต้องใช้เวลาการสอบสวน พิพากษานานหลายปี ที่สำคัญศาลก็ไม่ค่อยเข้าใจในประเด็นเกี่ยวกับการลงทุน จึงทำให้การตัดสินในบางคดีเป็นไปในแบบที่ไม่ค่อยถูกต้อง
กฎหมายตลาดหุ้นโปร่งใส แรงจูงใจนักลงทุน
อัปเดตข่าวสาร ทันทุกสถานการณ์ ครบทุกสารประโยชน์ และสาระบันเทิง ส่งตรงเพื่อคุณจากเว็บไซต์ไทยพีบีเอส
พม.ตั้งเป้าเพิ่ม "ล่ามภาษามือ" ให้มีประจำทั่วประเทศ
กฎหมายที่โปร่งใส เป็นอีกความสำคัญที่จะเป็นแรงจูงใจให้ผู้ลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ กลับเข้าสู่ตลาดหุ้นไทย เนื่องด้วยหลายคดี ไม่สามารถดำเนินการเอาผิดได้ หรือได้รับโทษที่น้อยมาก แม้ว่า ความผิดจะเกี่ยวกับจำนวนเงินมหาศาล ทำให้ผู้กระทำความผิดบางคนกลับเข้ามาในตลาดหุ้นได้อีก
- สีดัชนีตลาดหุ้นจีน จะเห็นได้ว่า หุ้นขึ้นหรือแม้แต่แท่งเทียนขาขึ้น ก็ใช้สีแดง (เครดิต: 中国基金报) -
วิธีเอาตัวรอดนั้นมีมากมาย แต่เราจะสรุปสั้น ๆ แบบเข้าใจง่าย ๆ ให้ ดังนี้
“สีเขียว” กับความหมายในเทศกาลเช็งเม้ง
... "รัฐบาลบอกเศรษฐกิจไทยเราโตต่ำกว่าศักยภาพ" ศักยภาพที่แท้จริงไทยควรโตที่เท่าไหร่..
คำว่า “สีแดง” หรือในภาษาจีนเรียกว่า “หง” (红) ถูกใช้เป็นคำศัพท์มงคลมากมาย อาทิ หงเหริน (红人) ที่แปลว่า คนดัง/คนโปรด, หว่างลู่หงเหริน (网路红人) เน็ตไอดอล, หงลี่ (红利) เงินโบนัส, หงฉี (红旗) ธงชาติจีน, หงฮัว (红火) เฟื่องฟู, หงอวิ้น site (红运) โชคดี, ฯลฯ
"ต่างชาติจริง ๆ พวกนี้เขาไม่ได้มีอะไรหรอก เขาก็บินไปทั่วโลก ดูว่าที่ไหนดี ให้ผลตอบแทนดี เขาก็ไป ไม่เหมือนคนไทย การจะออกไปนอกประเทศมันยุ่ง ต้องแลกเปลี่ยนเงินบาทขาดทุน แต่ต่างชาติพวกนี้เขาไปบ่อย เขาบินไปทั่วโลก เขาไปมานานแล้ว เขาจะดูว่าประเทศไหนกำลังรุ่ง และก็ดูภาพยาว"
จึงต้องทำความเข้าใจว่า "โลกสมัยใหม่ ตลาดหุ้น คือ หัวใจของเศรษฐกิจ"
คนส่วนใหญ่ซื้อขายหุ้นตัวไหน? นักลงทุนหลายคนคงอยากรู้ การนั่งไล่ดูหุ้นทีละตัว อาจใช้เวลานาน กว่าจะรู้ว่าหุ้นไหนเขียว หุ้นไหนแดงอาจทำให้พลาดโอกาสทำกำไร
สำหรับที่มาที่ไปของเรื่องนี้ มาจากการที่วัฒนธรรมจีนชื่นชอบสีแดงมาก มองว่า “สีแดง” เป็น “สีมงคลและรุ่งเรือง” ดังจะเห็นได้จากเกือบทุกอย่างที่เกี่ยวกับงานมงคลจีนล้วนประดับด้วยสีแดง ตั้งแต่เทศกาลตรุษจีน ชุดงานแต่งจีน การ์ดงานแต่ง ลูกประทัด เทียนไหว้เจ้า โคมไฟจีน ประตูวัง พระตำหนักจีน ฯลฯ ล้วนเป็นสีแดง